แนวข้อสอบเรื่องการเงินและงบประมาณ
คำชี้แจ้ง 1. ข้อสอบมีทั้งหมด 88 ข้อ
2. ให้กาเครื่องหมาย ü หน้า ข้อที่ถูกต้อง
1. แหล่งเงินทุนใดต่อไปนี้เป็นแหล่งเงินทุนจากภายในกิจการ
ก. พันธบัตร ข. หุ้นบุริมสิทธิ
ค. หุ้นสามัญ ง. กำไรสะสม
จ. ข้อ ข. ค. และ ง. ถูก
ตอบ ง. กำไรสะสม
2. Cash Flows Statement หมายถึง การศึกษากระแสการไหลเข้าออกของ
ก. เงินสดในอดีต ข. เงินสดในปัจจุบัน
ค. เงินสดในอนาคต ง. งบกระแสเงินสด
จ. ถูกทั้งหมด
ตอบ ก. เงินสดในอดีต
3. Business Risk เกิดจากการทำหน้าที่ใด
ก. การวางแผนทางการเงิน ข. การตัดสินใจจัดหาเงินทุน
ค. การตัดสินใจใช้เงิน ง. การควบคุมการเงิน
จ. ถูกทั้งหมด
ตอบ ค. การตัดสินใจใช้เงิน
4. ข้อใดคือสินค้าคงเหลือ
ก. Merchandise ข. Goods
ค. Product ง. Inventory
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ง. Inventory
5. ข้อใดคืองบประมาณการลงทุน
ก. Gapital Investment ข. Capital Budgeting
ค. Capital Expenditure ง. ถูกทั้งหมด
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. Capital Budgeting
จงใช้ข้อมูลตอบคำถามข้อ 6 - 15 |
|||
เงินสด หลักทรัพย์ระยะสั้น ลูกหนี้ สินค้า สินทรัพย์ถาวรสุทธิ |
24,000 12,000 20,000 ……... 64,000 |
เจ้าหนี้การค้า ตั๋วเงินจ่าย ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย หุ้นสามัญ กำไรสะสม |
……….. 10,0000 18,000 ……….. 36,000 |
บริษัท มียอดขาย (ขายเชื่อ 100%) 200,000 บาท Gross Profit Margin 20% Net Profit Margin 5, Tax Rate 20% , ดอกเบี้ยสุทธิ 4,500 บาท , Return on Asset 8% , Debt to Net Worth 0.5
6. ต้นทุนขายเท่ากับเท่าใด
ก. 40,000 บาท ข. 160,000 บาท
ค. 200,000 บาท ง. 10,000 บาท
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. 160,000 บาท
7. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเท่ากับเท่าใด
ก. 10,000 บาท ข. 27,500 บาท
ค. 23,000 บาท ง. 2,500 บาท
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. 23,000 บาท
8. ปีนี้บริษัทเสียภาษีเท่าใด
ก. 10,000 บาท ข. 6,000 บาท
ค. 2,400 บาท ง. 2,500 บาท
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ง. 2,500 บาท
9. กำไรสุทธิเท่ากับเท่าใด
ก. 10,000 บาท ข. 12,500 บาท
ค. 17,000 บาท ง. 12,000 บาท
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก. 10,000 บาท
10. Interest Coverage Ratio เท่ากับเท่าใด
ก. 3.78 เท่า ข. 2.74 เท่า
ค. 1.45 เท่า ง. 8.00 เท่า
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก. 3.78 เท่า
อัตราส่วนคุ้มครองดอกเบี้ยจ่าย = (กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี) / (ดอกเบี้ยจ่าย)
= 17,000 / 4,500 = 3.72
11. สินค้าทรัพย์รวมเท่ากับเท่าใด
ก. 240,000 บาท ข. 360,000 บาท
ค. 125,000 บาท ง. 160,000 บาท
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. 125,000 บาท
จากอัตราค่าตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม เท่ากับ 8%
8 = (กำไรสุทธิ / สินทรัพย์รวม) × 100
สินค้าทรัพย์รวม = ( 10,000 / 8 ) × 100 = 125,000 บาท
12. ส่วนของเจ้าของเท่ากับเท่าใด
ก. 36,000 บาท ข. 26,500 บาท
ค. 125,000 บาท ง. 62,500 บาท
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ จ. ไม่มีข้อใดถูก
จากอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของเจ้าของเท่ากับ 0.5 หมายความว่าหนี้สินเท่ากับ 0.5 ของส่วนของเจ้าของ หรือเท่ากับ 1/3 ของหนี้สินและส่วนของเจ้าของ (หรือเท่ากับสินทรัพย์รวม)
ส่วนของเจ้าของ = 125,000 × (2/3) = 83,333
13. Inventory Turnover เท่ากับเท่าใด
ก. 40 รอบ ข. 32 รอบ
ค. 11.25 รอบ ง. 9 รอบ
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. 32 รอบ
ก) คำนวณหายอดสินค้าคงเหลือ
สินค้ารวม 120,000
หัก เงินสด 24,000
ลูกหนี้ 20,000
หลักทรัพย์ระยะสั้น 12,000
สินทรัพย์ถาวร (สุทธิ) 64,000 125,000
สินค้าคงเหลือ 5,000
ข) คำนวณหาอัตราการหมุนของสินค้า
อัตราการหมุนของสินค้า = ต้นทุนขาย / สินค้าคงเหลือ
= 160,000 / 5,000 = 32 รอบ
14. Current Ratio เท่ากับเท่าใด
ก. 0.896 เท่า ข. 1.667 เท่า
ค. 0.976 เท่า ง. 1.25 เท่า
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ จ. ไม่มีข้อใดถูก
อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน = สินทรัพย์หมุนเวียน / หนี้สินหมุนเวียน
= (125,000 – 64,000) / (125,000 – 83,333)
= 1.46 เท่า
15. ระยะเก็บหนี้เฉลี่ยเท่ากับเท่าใด
ก. 10 วัน ข. 36 วัน
ค. 16 วัน ง. 22.5 วัน
จ. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. 36 วัน
ก) คำนวณหาอัตราการหมุนของลูกหนี้
อัตราการหมุนของลูกหนี้ = ขาย / ลูกหนี้
= 200,000 / 20,000 = 10 รอบ
ข) คำนวณหาระยะเก็บหนี้เฉลี่ย
ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย = 360 วัน / อัตราการหมุนของลูกหนี้
= 360 วัน / 10 รอบ = 36 วัน
16. ข้อใด อธิบายความหมายของเงิน ในระบบเศรษฐกิจได้ถูกต้องมากที่สุด
ก. สิ่งที่สังคมยอมรับให้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ
ข. ปริมาณของธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ในระบบตลาด
ค. มาตรวัดคุณภาพและราคาสินค้าต่อหน่วย
ง. สื่อกลางในการดำเนินธุรกิจการค้า
ตอบ ก. สิ่งที่สังคมยอมรับให้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ
17. เจ้าของสวนมะม่วงนำผลผลิตไปส่งให้แม่ค้าที่ตลาด เมื่อได้เงินจากการขายก็จะเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ใช้จ่ายในชีวิตประกำวัน ถือว่าเงินทำหน้าที่ในข้อใด
ก. สื่อกลางแลกเปลี่ยนสินค้า ข. มาตรฐานวัดมูลค่าสินค้า
ค. เก็บรักษามูลค่าของสินค้า ง. มาตรฐานการชำระหนี้ในอนาคต
ตอบ ง. มาตรฐานการชำระหนี้ในอนาคต
18. การทำหน้าที่ของเงินในข้อใด เป็นมาตรฐานวัดข้อมูลค่าของสินค้า
ก. สินค้า เกรด A ราคาแพงสินค้าเกรด B ราคาถูก
ข. ธนบัตรไทยมีราคา 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท
ค. หนังสือแบบเรียนสังคม ฯ ชั้น ม. 5 ราคาเล่มละ 55 บาท
ง. ใช้ธนบัตรใบละ 500 บาท ซื้อสินค้า 480 ได้เงินทอน 20 บาท
ตอบ ค. หนังสือแบบเรียนสังคม ฯ ชั้น ม. 5 ราคาเล่มละ 55 บาท
19. อุปทานของเงิน ในระบบเศรษฐกิจ หมายถึง
ก. ปริมาณของเงินตราที่หมุนเวียนอยู่ในมือของมหาชน
ข. เงินของรัฐบาลที่ฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์
ค. เงินคลังของรัฐบาลที่มีอยู่ในเวลาใดเวลาหนึ่ง
ง. เงินสดของรัฐบาลที่จัดทำขึ้นในแต่ละปี
ตอบ ค. เงินคลังของรัฐบาลที่มีอยู่ในเวลาใดเวลาหนึ่ง
20. ในช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือใกล้ปีใหม่ ปริมาณเงินตราในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ เรียกสภาพนี้ว่าอย่างไร
ก. เงินมีสภาพคล่อง ข. อุปทานของเงิน
ค. ภาวะเงินตรึงตัว ง. ภาวะเงินเฟ้อ
ตอบ ก. เงินมีสภาพคล่อง
21. สินทรัพย์ในระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรีประเภท มีสภาพคล่องสูง
ก. บัตรเครดิต ข. ที่ดินในย่านธุรกิจการค้า
ค. เครื่องประดับและทองรูปพรรณ ง. เงินตราในรูปธนบัตร
ตอบ ง. เงินตราในรูปธนบัตร
22. ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างไรไม่ปกติจนเกิด ภาวะเงินเฟ้อ หมายถึงข้อใด
ก. ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ข. ราคาสินค้าลดต่ำลงเรื่อยๆ
ค. เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ง. เศรษฐกิจชะลอตัวลง
ตอบ ก. ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
23. สถาบันการเงินประเภทใด เป็นแหล่งเงินออมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ก. ธนาคารแห่งประเทศไทย ข. ธนาคารพาณิชย์
ค. โรงรับจำนำ ง. บริษัทประกันภัย
ตอบ ก. ธนาคารแห่งประเทศไทย
24. สถาบันการเงินประเภทใด มีหน้าที่หลัก คือ ส่งเสริมการออมทรัพย์และระดมเงินฝากจากประชาชนให้รัฐบาลกู้ไปใช้พัฒนาประเทศ
ก. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ฯ
ค. สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์การเกษตร ง. ธนาคารออมสิน
ตอบ ข. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ฯ
25. ประชาชนที่ต้องการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ โดยซื้อหุ้นของบริษัทต่าง ๆ จะต้องติดต่อให้ใครเป็นผู้ดำเนินการ
ก. บริษัทหลักทรัพย์
ข. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
ค. บริษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.)
ง. บริษัทประกันภัย
ตอบ ข. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
26. ข้อใด อธิบายลักษณะของ โรงรับจำนำ ผิดความจริง
ก. ให้สินเชื่อแก่ผู้กู้รายย่อยที่นำสิ่งของมีค่ามาค้ำประกัน
ข. ผู้กู้ต้องนำโฉนดตราสารมาค้ำประกัน
ค. เป็นแหล่งเงินกู้ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย
ง. ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนด
ตอบ ข. ผู้กู้ต้องนำโฉนดตราสารมาค้ำประกัน
27. การคลังภาครัฐบาล มีขอบข่ายเกี่ยวกับเรื่องใดต่อไปนี้ น้อยที่สุด
ก. การจัดเก็บภาษีอากรของรัฐบาล
ข. การจัดเก็บทำงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล
ค. การควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
ง. หนี้สินสาธารณะและการกู้เงินของรัฐบาล
ตอบ ง. หนี้สินสาธารณะและการกู้เงินของรัฐบาล
28. ข้อใด เป็นความหมายของ งบประมาณแผ่นดิน
ก. แผนการใช้จ่ายเงินประจำปีของรัฐบาล
ข. รายรับและรายจ่ายของกระทรวงการคลังประจำปี
ค. โครงการพัฒนาเศรษฐกิจประจำปีของกระทรวงต่าง ๆ
ง. รายการแสดงฐานะทางการเงินของรัฐบาลในรอบ 1 ปี
ตอบ ค. โครงการพัฒนาเศรษฐกิจประจำปีของกระทรวงต่าง ๆ
29. การจัดทำ งบประมาณขาดดุล ของรัฐบาล มีลักษณะอย่างไร
ก. รายรับสูงกว่ารายจ่าย ข. รายรับน้อยกว่ารายจ่าย
ค. ดุลการชำระเงินขาดดุล ง. ลดรายจ่ายภาครัฐบาล
ตอบ ข. รายรับน้อยกว่ารายจ่าย
30. รัฐบาลมีวัตถุประสงค์อย่างไร จึงต้องจัดทำ งบประมาณขาดดุล ในปีใดปีหนึ่ง
ก. ลดภาระหนี้สาธารณะให้น้อยลง ข. ลดการใช้จ่ายภาครัฐบาล
ค. กระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว ง. ชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ช้าลง
ตอบ ข. ลดการใช้จ่ายภาครัฐบาล
31. ในปีใดที่รัฐบาลจัดทำ งบประมาณเกินดุล จะเกิดสภาพใดต่อไปนี้
ก. การจัดเก็บภาษีอากรมีประสิทธิภาพ ข. การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มสูงขึ้น
ค. การกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น ง. ประชาชนมีอำนาจซื้อสูงขึ้น
ตอบ ก. การจัดเก็บภาษีอากรมีประสิทธิภาพ
32. รายรับของรัฐบาลในแต่ละปี ได้มาจากแหล่งใดมากที่สุด
ก. ภาษีทางอ้อม ข. ภาษีทางตรง
ค. เงินกู้จากต่างประเทศ ง. รายได้จากรัฐพาณิชย์
ตอบ ก. ภาษีทางอ้อม
33. ลักษณะสำคัญของ ภาษีทางอ้อม คือข้อใด
ก. ภาษีที่จัดเก็บในอัตราก้าวหน้า ข. ภาษีที่ผู้บริโภคเป็นผู้เสีย มิใช่ผู้ผลิต
ค. ภาษีที่ผู้เสียผลักภาระภาษีให้ผู้อื่นได้ ง. ภาษีที่ผู้เสียไม่อาจหลักภาระให้แก่ผู้อื่นได้
ตอบ ข. ภาษีที่ผู้บริโภคเป็นผู้เสีย มิใช่ผู้ผลิต
33. ภาษีต่อไปนี้ เป็น ภาษีทางตรง เกือบทั้งหมด ยกเว้น ข้อเดียวที่เป็นภาษีทางอ้อม คือข้อใด
ก. ภาษีดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ข. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ค. ภาษีเงินได้นิติบุคคล ง. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ตอบ ง. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
34. งบประมาณรายจ่ายในข้อใด จัดเป็นประเภท งบพัฒนา ไม่ใช่ งบปกติ
ก. เงินเดือนข้าราชการ ข. ค่าไฟฟ้าในสำนักงบประมาณ
ค. ค่าครุภัณฑ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ง. ค่าก่อสร้างสาธารณูปโภคในชนบท
ตอบ ง. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
35. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ สาเหตุการเกิด หนี้สาธารณะ
ก. รัฐบาลกู้เงินจากธนาคารโลก ข. รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ
ค. รัฐบาลกู้เงินจากธนาคารออมสิน ง. รัฐบาลจัดทำงบประมาณเกินดุล
ตอบ ก. รัฐบาลกู้เงินจากธนาคารโลก
36. เมื่อเกิด ภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลจะใช้นโยบายการคลังข้อใด แก้ปัญหาดังกล่าว
ก. เพิ่มรายจ่ายภาครัฐและลดอัตราภาษีให้ต่ำ
ข. ลดรายจ่ายภาครัฐและจัดเก็บภาษีเพิ่มสูงขึ้น
ค. กระตุ้นการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
ง. เพิ่มงบด้านสวัสดิการและสังคมสงเคราะห์ให้สูง
ตอบ ก. เพิ่มรายจ่ายภาครัฐและลดอัตราภาษีให้ต่ำ
37. การใช้มาตรการด้านภาษีอากร โดยใช้อัตราก้าวหน้าและเก็บภาษีมรดกและภาษีทรัพย์สิน เป็นการใช้นโยบายการคลังเพื่อแก้ปัญหาข้อใด
ก. การว่างงาน ข. การหลบเลี่ยงภาษี
ค. การขาดดุลการชำระเงิน ง. ความไม่เสมอภาคในการกระจายรายได้
ตอบ ข. การหลบเลี่ยงภาษี
38. นโยบายการคลังข้อใด รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว โดยเพิ่มงบประมาณรายจ่ายให้สูง และลดภาษีอากร เพื่อส่งเสริมการจ้างงานและการใช้จ่ายของภาคเอกชน
ก. นโยบายการคลังแบบขยายตัว ข. นโยบายการคลังแบบหดตัว
ค. นโยบายการคลังแบบเสมอตัว ง. นโยบายการคลังแบบก้าวกระโด
ตอบ ก. นโยบายการคลังแบบขยายตัว
39. ข้อใด ไม่ใช่ นโยบายการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
ก. การควบคุมอุปทานของเงิน
ข. การควบคุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์
ค. การควบคุมปริมาณหนี้สาธารณะ
ง. การควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
ตอบ ง. การควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
40. เงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ จัดอยู่ในงบประมาณหมวดใด
ก. งบบุคลากร ข. งบดำเนินการ
ค. งบเงินอุดหนุน ง. งบอื่นๆ
ตอบ ข. งบดำเนินการ
41. ค่าตอบแทน หมายถึง
ก. เงินที่จ่ายตอบแทนให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติงานให้ทางราชการตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
ข. เงินที่จ่ายตอบแทนให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติงานให้ทางราชการตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
ค. เงินที่จ่ายตอบแทนให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติงานให้ทางราชการตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ง. เงินที่จ่ายตอบแทนให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติงานให้ทางราชการตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด
ตอบ ค. เงินที่จ่ายตอบแทนให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติงานให้ทางราชการตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
42. ค่าจ้างเหมาเดินสายไฟฟ้าและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมในสถานศึกษา ถือว่าเป็นค่าอะไร
ก. ค่าตอบแทน ข. ค่าใช้สอย
ค. ค่าวัสดุ ง. ค่าครุภัณฑ์
ตอบ ข. ค่าใช้สอย
43. ข้อใดคือความหมายของคำว่า วัสดุ
ก. สิ่งของซึ่งโดยสภาพเมื่อใช้แล้วย่อมสิ้นเปลืองหมดไป แปรสภาพ หรือไม่คงสภาพเดิม หรือสิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวร และมีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท
ข. สิ่งของซึ่งโดยสภาพเมื่อใช้แล้วย่อมสิ้นเปลืองหมดไป ไม่แปรสภาพ หรือไม่คงสภาพเดิมหรือสิ่งของที่มีลักษณะไม่คงทนถาวร และมีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท
ค. สิ่งของซึ่งโดยสภาพเมื่อใช้แล้วย่อมสิ้นเปลืองหมดไป แปรสภาพ หรือไม่คงสภาพเดิม หรือสิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวร และมีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่เกิน 5,000 บาท
ง. สิ่งของซึ่งโดยสภาพเมื่อใช้แล้วย่อมสิ้นเปลืองหมดไป แปรสภาพ หรือไม่คงสภาพเดิม หรือสิ่งของที่มีลักษณะไม่คงทนถาวร และมีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่เกิน 5,000 บาท
ตอบ ค. สิ่งของซึ่งโดยสภาพเมื่อใช้แล้วย่อมสิ้นเปลืองหมดไป แปรสภาพ หรือไม่คงสภาพเดิม หรือสิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวร และมีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่เกิน 5,000 บาท
44. ระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 บังคับใช้เมื่อใด
ก. 5 มีนาคม 2551 ข. 6 มีนาคม 2551
ค. 7 มีนาคม 2551 ง. 8 มีนาคม 2551
ตอบ ง. 8 มีนาคม 2551
45. ข้อใด คือ ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ก. Government Financial Management Information System
ข. Government Financial Money Information System
ค. Government Fiscal Money Information System
ง. Government Fiscal Management Information System
ตอบ ง. Government Fiscal Management Information System
46. ผู้รักษาการตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 คือ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ข. ปลัดกระทรวงการคลัง
ค. ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ง. อธิบดีกรมบัญชีกลาง
ตอบ ข. ปลัดกระทรวงการคลัง
47. การจ่ายเงินเข้าบัญชีให้กับเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงินของส่วนราชการโดยตรง ในวงเงินเท่าใด
ก. 5,000 บาท ข. 5,000 บาทขึ้นไป
ค. 50,000 บาท ง. 50,000 บาทขึ้นไป
ตอบ ข. 5,000 บาทขึ้นไป
48. ใครเป็นผู้จ่ายเงินเข้าบัญชีให้กับเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงินของส่วนราชการโดยตรงตามวงเงินที่กำหนด ในระเบียบนี้
ก. กระทรวงการคลัง
ข. กรมบัญชีกลาง
ค. คลังจังหวัด
ง. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสถานศึกษาแล้วแต่กรณี
ตอบ ข. กรมบัญชีกลาง
49. ส่วนราชการที่ต้องจ่ายเงินในลักษณะทุกสิ้นเดือน จะต้องขอเบิกภายในระยะเวลาใด
ก. ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน
ข. ภายในวันที่ 15 ของเดือน
ค. ภายในวันที่ 20 ของเดือน
ง. ไม่ได้กำหนดชัดเจน แต่ต้องขอเบิกภายในเดือนนั้น
ตอบ ข. ภายในวันที่ 15 ของเดือน
50. สำนักงานที่อยู่ต่างประเทศ หากมีเงินเหลือจ่าย จะต้องนำส่งหน่วยงานเจ้าของงบประมาณภายในกำหนดระยะเวลาใด
ก. ก่อน 30 กันยายนของทุกปี ข. ภายใน 30 วันก่อนสิ้นปี
ค. ภายใน 60 วันก่อนสิ้นปี ง. ภายใน 90 วันก่อนสิ้นปี
ตอบ ข. ภายใน 30 วันก่อนสิ้นปี
51. ข้อใดไม่จำเป็นต้องระบุในใบเสร็จรับเงินของทางราชการ
ก. ลายมือชื่อของผู้รับเงิน ข. ชื่อ สถานที่อยู่ หรือที่ทำการของผู้รับเงิน
ค. ลายมือชื่อของผู้จ่ายเงิน ง. มีระบุทุกข้อ
ตอบ ค. ลายมือชื่อของผู้จ่ายเงิน
52. การจ่ายเงินสด สามารถดำเนินการได้ในวงเงินเท่าใด
ก. 5,000 บาท ข. 5,000 บาทขึ้นไป
ค. ต่ำกว่า 5,000 บาท ง. ไม่ได้ระบุ
ตอบ ค. ต่ำกว่า 5,000 บาท
53. ตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 ข้าราชการสามารถยืนเงินสำรองในการเดินทางไปราชการในอาณาจักรได้กี่วัน
ก. ไม่เกิน 15 วัน ข. ไม่เกิน 30 วัน
ค. ไม่เกิน 60 วัน ง. ไม่เกิน 90 วัน
ตอบ ง. ไม่เกิน 90 วัน
54. ใครเขียนหนังสือเกี่ยวกับแนวคิดทางทฤษฏีเศรษฐกิจเสรีนิยม ชื่อ The Wealth of Nations
ก. Adam Smith ข. Galileo
ค. Frederick W. Taylor ง. ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
ตอบ ก. อดัม สมิธ (Adam Smith) นักเศรษฐศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ เป็นผู้เสนอแนวคิดเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม โดยได้เขียนแนวคิดดังกล่าวไว้ในหนังสือ The Wealth of Nations ในปี ค.ศ. 1776
55. รัฐบาลไม่ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเพราะหลักใด
ก. เป็นหน้าที่ด้านพานิชยกรรม
ข. เป็นการควบคุม
ค. รักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ง. ชำระหนี้สินของรัฐ
ตอบ ข. การที่รัฐบาลไม่ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น เป็นวัตถุประสงค์ ในการจัดภาษีอย่างหนึ่ง โดยอาศัยหลักเพื่อการควบคุม คือ ต้องการควบคุม จำกัด รวมทั้งต้องการให้มีการลดการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย
56. เครดิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ ได้แก่เครดิตภาษีเงินได้ในข้อใด
ก. หุ้นปันผลจากบริษัทจำกัด
ข. เงินเดือนจากห้างหุ้นส่วนจำกัด
ค. ส่วนแบ่งกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญ
ง. ส่วนแบ่งกำไรจากห้างหุ้นส่วนจำกัด
ตอบ ง. เครดิตภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรา 47 ทวิ ได้แก่ เครดิตภาษีเงินปันผล หรือเงินส่วนแบ่งกำไรของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วน
57. นาย ก. เป็นนักบัญชีมีเงินเดือนจากบริษัทตรวจสอบบัญชี 15,000 บาท
ก. มาตรา 40(1) ข. มาตรา 40(2)
ค. มาตรา 40(6) ง. มาตรา 40(7)
ตอบ ก. เงินเดือนที่นาย ก. ได้รับจากบริษัท ถือว่าเป็นเงินเดือนได้พึงประเมินประเภทที่ 1 ตามมาตรา 40(1) เพราะเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงานตามสัญญาแรงงาน
58. นาย ข. เป็นแพทย์มีเงินได้จากคลินิกเดือนละ 15,000 บาท
ก. มาตรา 40(1) ข. มาตรา 40(2)
ค. มาตรา 40(6) ง. มาตรา 40(7)
ตอบ ค. เงินได้จากคลินิก เป็นเงินได้จากการประกอบโรคศิลป์ ถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(6) เพราะเป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระ
59. นาย ค. เป็นนายหน้า ได้รับค่านายหน้าขายรถยนต์ 20,000 บาท
ก. มาตรา 40(1) ข. มาตรา 40(2)
ค. มาตรา 40(6) ง. มาตรา 40(7)
ตอบ ข. เงินค่านายหน้าขายรถยนต์ เป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 2 ตามมาตรา 40(2) เพราะเป็นเงินได้ที่ได้จากการรับทำงานให้ คือ การรับเป็นนายหน้านั่นเอง
60. นาย ง. รับหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดกให้ตระกูล “ร่ำรวยมหาศาล” ค่าตอบแทนเดือนละ 3,000 บาท
ก. มาตรา 40(1) ข. มาตรา 40(2)
ค. มาตรา 40(6) ง. มาตรา 40(7)
ตอบ ข. เงินได้จากการเป็นผู้จัดการมรดก เป็นเงินได้ที่เกิดจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำไม่ได้เกิดจากสัญญาแรงงาน จึงเป็นแรงงาน จึงเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 2 เตามมาตรา 40(2)
61. นาย จ. รับต่อเติมบ้านให้นาย ก. โดยนาย จ. จัดหาวัสดุก่อสร้างทั้งหมด ได้เงิน 50,000 บาท
ก. มาตรา 40(1) ข. มาตรา 40(2)
ค. มาตรา 40(6) ง. มาตรา 40(7)
ตอบ ง. เงินได้ที่นาย จ. ได้รับ เป็นเงินได้จากการรับเหมา ซึ่งผู้รับเหมาต้องจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญจึงถือว่าเป็นเงินพึงประเมินประเภทที่ 7 ตามมาตรา 40(7)
62. นายจ้างออกเงินค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแทนนาย ฉ. ผู้เป็นลูกจ้าง จำนวน 10,000 บาท
ก. มาตรา 40(1) ข. มาตรา 40(2)
ค. มาตรา 40(6) ง. มาตรา 40(7)
ตอบ ก. เงินค่าภาษีที่นายจ้างออกให้ลูกจ้าง เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายชำระหนี้ซึ่งเป็นหนี้ที่ลู้จ้างมีหน้าที่ต้องชำระ ถือว่าเป็นเงินได้ที่ลูกจ้างได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงาน จึงเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 1 ตามมาตรา 40(1)
63. เงินได้พึงประเมินใดได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ก. เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก
ข. เงินรายวันจากสลากออมสิน
ค. เบี้ยประชุม
ง. เงินเดือนของทูตไทยที่ประจำอยู่ต่างประเทศ
ข้อ 76. – 93. ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำถาม สำหรับปีภาษี พ.ศ. 2542
นายยุทธนาและนางปราณี สามีภริยาชอบด้วยกฎหมาย มีบุตรด้วยกัน 4 คน มีเงินได้ตลอดปีภาษี ดังนี้
นายยุทธนา
รายรับ |
รายจ่าย |
เงินเดือนตลอดทั้งปี 280,000 บาท เงินเดือนจากการตรวจสอบบัญชี 60,000 บาท ค่าเช่าบ้านและหอพัก 200,000 บาท ค่านายหน้าจากการขายบ้าน 50,000 บาท ค่าลิขสิทธิ์เขียนนวนิยาย 10,000 บาท ส่วนแบ่งกำไรจากห้างหุ้นส่วนจำกัด 8,750 บาท |
ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมซื้อบ้าน 20,000 บาท เบี้ยประกันชีวิตอายุกรมธรรม์ 30 ปี จำนวน 8,000 บาท บริจาคเงินให้วัดราชนัดดา 70,000 บาท เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 6,000 บาท เงินสมทบกองทุนประกันสังคม 2,500 บาท |
นางปราณี
รายรับ |
รายจ่าย |
เงินเดือนจากบริษัททั้งปี 300,000 บาท เงินได้จากการเปิดคลินิกรักษาคนไข้ 150,000 บาท ค่านายหน้าจากการขายที่ดิน 60,000 บาท |
เงินจ่ายสมทบกองทุนประกันสังคม 1,500 บาท เบี้ยประกันชีวิตอายุกรมธรรม์ 8 ปี จำนวน 4,000 บาท บริจาคถ้วยชามให้วัดทุ่งเศรษฐีมูลค่า 25,000 บาท |
บุตรคนที่ 1 อายุ 24 ปี ศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจ มีเงินเดือนจากการเป็นที่ปรึกษาบริษัท ปีละ 25,000 บาท บุตรคนที่ 2 อายุ 22 ปี ช่วยมารดาดูแลบ้าน ไม่ได้เรียนหนังสือ บุตรคนที่ 3 อายุ 18 ปี มีเงินเดือนจากบริษัท เดือนละ 8,000 บาท บุตรคนที่ 4 อายุ 16 ปี เรียนชั้น ม. 6 โรงเรียนบ้านบางกะปิ ให้คำนวณภาษีของนายยุทธนาและนางปราณี โดยทั้งคู่ประสงค์จะแยกยื่นภาษี |
้ืืืื้้้้