
สั่งดูแล “ยาย-ป้า” หนุ่มร่ำไห้จับใบแดง เผยชีวิตยากจน-ทิ้งการเรียน เป็นลูกจ้างวันละ 300
สั่งดูแล “ยาย-ป้า” หนุ่มร่ำไห้จับใบแดง เผยชีวิตยากจน-ทิ้งการเรียน เป็นลูกจ้างวันละ 300
จากกรณีที่หนุ่มจับได้ใบแดงร่ำไห้ เหตุห่วงยายที่ไม่มีคนดูแลเพราะมีตนเพียงคนเดียว แถมที่บ้านยังมีฐานะยากจน ยังไม่พอยังต้องหาเลี้ยงป้าที่ป่วยและหลานอีกคนที่กำลังเรียนหนังสืออยู่อีกด้วย ขณะที่เจ้าตัวมีรายได้เพียงวันละ 300 บาทแต่ต้องหาเลี้ยง 4 ชีวิตนั้น ล่าสุดผบ.ทบ. สั่งสัสดีภาษีเจริญรับผิดชอบ ผบช.มทบ.11 บอกดูแลทั้งยายและหลานเพื่อความสบายใจ
จากที่ในโลกโซเชียลมีการแชร์เรื่องราวจากเฟซบุ๊ก Art Tua Por โพสต์วีดีโอคลิป ระบุถึงเหตุการณ์การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจําการ ประจําปี 2561 ในสถานที่แห่งหนึ่ง พบว่าหลังจับได้ใบแดง ชายคนดังกล่าวร้องไห้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารบนโต๊ะเอกสารสอบถามจึงได้ความว่า ต้องเลี้ยงดูยายที่เจ็บป่วย เนื่องจากพ่อแม่ทอดทิ้งตั้งแต่เด็ก และเกรงว่าจะไม่มีใครดูแลยาย กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการเกณฑ์ทหารในโซเชียลมีเดียนั้น
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ถูกจับใบแดงที่เป็นข่าว คือ นายศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร อยู่บ้านเลขที่ 59/3 ซอยเทอดไท 15 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ สภาพครอบครัวมีฐานะยากจน มีภาระต้องดูแลยาย 1 คน อายุ 75 ปี และป้าอีกสองคน อายุ 55 ปี (ป่วย) และอายุ 48 ปี กับหลานชายอายุ 16 ปีอีก 1 คน กำลังเรียนหนังสือ รายได้ของครอบครัวมาจาก การร้อยมาลัยของยายและป้า กับเจ้าตัวทำงานบริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า
นายศักดิ์ฤทธิ์ เข้ารับการตรวจเลือกทหารที่วัดจันทร์ประดิษฐาราม ซอยเพชรเกษม 48 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยได้ขอผ่อนผันเพื่อการศึกษามาแล้ว 2 ครั้ง เคยศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี แต่ปัจจุบันเลิกเรียนแล้ว เนื่องจากไม่มีเงิน จึงขอยกเลิกการผ่อนผัน และเข้ารับการตรวจเลือก โดยสมัครใจเข้าจับฉลาก และจับได้ฉลากใบแดง (ทบ.ผลัดที่ 2) ต้องรับราชการ 2 ปี จะเข้าประจำการ ที่หน่วยมณฑลทหารบกที่ 11 ถนนพระราม 5 เขตดุสิต กรุงเทพฯ
โดย พ.ท.อรรถ ฤกษ์อนันต์ ผู้ช่วยสำนักงานสัสดีกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย จ.ส.อ.ชนะ แจ่มจำรัส เสมียนหน่วยสัสดีเขตภาษีเจริญ ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับครอบครัวนายศักดิ์ฤทธิ์ เมื่อค่ำวันที่ 18 เม.ย. จากการสอบถามสภาพความเป็นอยู่ พบว่านายศักดิ์ฤทธิ์ ประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นพนักงานธุรการ บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้าแห่งหนึ่งย่านถนนท่าดินแดง เขตคลองสาน มีรายได้วันละ 300 บาท ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2560 นายศักดิ์ฤทธิ์ เคยทำงานอยู่ที่สำนักพระราชวัง ฝ่ายสนม มีหน้าที่ในการรับเสด็จ แต่ถูกให้ออกเมื่อเดือนธันวาคม 2560 เนื่องจากยังไม่ผ่านการตรวจเลือกทหาร และบัตรเขียวถูกยกเลิก
ส่วนป้ากับยายช่วยกันร้อยพวงมาลัยแล้วให้ยายไปขายบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น หน้าวัดนาคปรก ซอยเพชรเกษม 23 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ รายได้วันละ 200 บาท ซึ่งนายศักดิ์ฤทธิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ในตอนนั้น ร้องไห้เพราะตกใจ ไปคนเดียว ไม่มีคนให้ปรึกษา ตนเองจับได้ผลัด 2 ในเดือนพฤศจิกายน ก็จะเข้าไปทำหน้าที่
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ระบุว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้ความสนใจ และสั่งการให้สัสดีในพื้นที่รับผิดชอบ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และเตรียมการดูแลอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ การตรวจเลือกเป็นไปตามกระบวนการ อย่างเปิดเผยและยุติธรรม ไม่ได้กลั่นแกล้งเพื่อสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใด และเมื่อทราบปัญหา ก็เร่งหาทางแก้ไขอย่างรวดเร็วในทุกราย ซึ่งกรณีของนายศักดิ์ฤทธิ์ ทางหน่วยทหารใหม่จะดูแลทั้งตัวทหารใหม่และยายให้เป็นอย่างดี เพื่อความสบายใจ คลายกังวล สามารถเข้ารับการฝึก และทำหน้าที่ของตนตามกฏหมายอย่างสมบูรณ์
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า มีพบอยู่บ่อยครั้งกรณีทหารใหม่แสดงออกถึงความกังวล เนื่องจากตนเองจะต้องเข้ามารับราชการเป็นทหารกองประจำการนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นเฉพาะในช่วงแรกๆ เท่านั้นเพราะยังไม่มีข้อมูล เรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ภายในหน่วยทหารสมัยปัจจุบัน ซึ่งในรั้วครอบครัวทหารยุคปัจจุบัน ทุกหน่วยจะมีการดูแลให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกมิติ โดยเฉพาะการให้ความใส่ใจต่อชีวิตความเป็นอยู่ภายนอกรั้วทหาร และให้ความสำคัญกับทหารทุกคนเสมือนเป็นญาติพี่น้องและคนในครอบครัว
ที่ผ่านมาความกังวลในลักษณะทำนองนี้ ทางหน่วยจะมีวิธีช่วยบริหารจัดการให้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด หรือกรณีที่บางครั้งอาจจะเกิดผลกระทบบ้าง แต่ส่วนใหญ่ทุกหน่วยก็จะพยายามบริหารจัดการให้เกิดหรือมีขึ้นได้ให้น้อยที่สุด เชื่อว่าเมื่อทางหน่วยได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยแล้ว สุดท้ายอาจไม่ถึงกับต้องเสียภารกิจในทางใดทางหนึ่งไป ไม่ว่าจะภาระทางราชการ หรือ ภาระทางครอบครัว ที่จะมีเพื่อนทหาร และผู้บังคับบัญชาไปร่วมกันดูแล หรือบางกรณี ทางหน่วย สามารถพิจารณาเสนอขอใช้ระเบียบการขอลาดูแลบุพการีได้ถ้าจำเป็นจริงๆ
ที่มา MGR Online